วันอังคารที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2558

เที่ยวภาคเหนือ


1.ดอยแม่สลอง


ดอบแม่สลอง
            ดอยแม่สลอง เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านสันติคิรี เดิมชื่อบ้านแม่สลองนอก เป็นชุมชนผู้อพยพจากกองพล 93 จากสหภาพพม่าเข้ามาในเขตไทย จำนวนสองกองพันคือ กองพันที่ 3 เข้ามาอยู่ที่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ และกองพันที่ 5 อยู่ที่บ้านแม่สลองนอก ตั้งแต่ พ.ศ. 2504 ในเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ ดอกนางพญาเสือโคร่ง ซึ่งเป็นซากุระพันธุ์ที่เล็กที่สุด สีชมพูอมขาวจะบานสะพรั่งตลอดแนวทางขึ้นดอยแม่สลอง เป็นพันธุ์ไม้ที่หาชมได้ยากในเมืองไทย เพราะเจริญเติบโตอยู่แต่เฉพาะในภูมิอากาศหนาวจัดเท่านั้น โดยจุดน่าสนใจบนดอยแม่สลอง คือ การชมไร่ชาและศึกษาวิธีการผลิตชา ขี่ม้าชมทิวทัศน์รอบหมู่บ้านเจียงจาใส และศึกษาเรื่องราวและประวัติของชาวดอยแม่สลอง ณ อนุสรณ์สถานอดีตทหารจีนคณะชาติภาคเหนือ ประเทศไทย

2.ดอยเสมอดาว
ดอยเสมอดาว

         ดอยเสมอดาว ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติศรีน่าน อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน เป็นบริเวณจุดชมวิว แห่งหนึ่งของอุทยานฯ มีพื้นที่เป็นลานกว้างตามสันเขา เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางมาดูดาว ดูพระอาทิตย์ขึ้น และตกดินในบริเวณเดียวกัน รวมทั้งสามารถชมทะเลหมอก จึงตั้งชื่อของสถานที่แห่งนี้ว่า ดอยเสมอดาว

            นอกจากนี้ ยังมีสถานท่องเที่ยวบริเวณใกล้เคียง คือ ผาหัวสิงห์ เป็นหน้าผาที่มีรูปร่างคล้ายสิงโตนอนหมอบ หันหน้าไปทางทัศตะวันออก สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้ 360 องศา และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกจุดหนึ่ง มีเส้นทางเดินสำรวจธรรมชาติ ให้ผู้รักการผจญภัยได้เพลิดเพลินไปกับความงามของธรรมชาติ ทั้งนี้ สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจจะเดินทางไปท่องเที่ยว สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 08 1224 0800


3.ดอยผาตั้ง


ดอยผาตั้ง


ดอยผาตั้ง ตั้งอยู่ใกล้ทางหลวงหมายเลข 1093 กิโลเมตรที่ 89 เป็นจุดชมวิวไทย-ลาว มีความสูง 1,635 เมตร และเที่ยวชมทะเลหมอกได้ตลอดปี ในเดือนธันวาคมถึงมกราคมจะมีดอกซากุระบาน และเดือนกุมภาพันธ์ มีดอกเสี้ยวบานสะพรั่งงดงาม ซึ่งที่นี่เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวจีนฮ่อ ม้ง และเย้า โดยเฉพาะจีนฮ่อนั้น อดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของกองพล 93 ซึ่งอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ดอยผาตั้งนี้ ปัจจุบันประกอบอาชีพทางการเกษตร ปลูกพืชเมืองหนาว เช่น บ๊วย ท้อ สาลี่ แอปเปิล และชา

            ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ จุดบริการนักท่องเที่ยวดอยผาตั้ง โทรศัพท์ 0 5391 8301 หรือองค์การบริหารส่วนตำบลปอ โทรศัพท์ 0 5371 0300, 0 5391 8265

   4.วนอุทยานภูลังกา

วนอุทยานภูลังกา

                      วนอุทยานภูลังกา ตั้งอยู่ภายในตำบลผาช้างน้อย อำเภอเชียงคำ และอำเภอปง จังหวัดพะเยา เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกแห่งเดียวของจังหวัดพะเยา ชาวเขาเผ่าเย้าเรียกยอดดอยที่สูงที่สุดบนภูนี้ว่า “ฟินจาเบาะ” หมายถึง เป็นที่สถิตของนางฟ้าและเทวดา ซึ่งมีคำบอกเล่าถึงความมหัศจรรย์ว่าในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ จะมีแสงสีขาวเปล่งปลั่งเหนือยอดดอย อีกทั้งเป็นยอดดอยที่สวยงาม มีความสูง 1,720 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง

            ทั้งนี้ บนยอดภูมีพื้นที่แคบจุได้ไม่เกิน 10 คน สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าดิบเขา มีต้นไม้ขนาดใหญ่จำนวนมาก ดอกไม้ป่า พันธุ์ไม้หายาก เช่น ต้นชมพูภูพาน, เนียมแดง, เอื้องสีตาล, เทียนธารา และสัตฤาษี เป็นต้น สามารถศึกษาระบบนิเวศดั้งเดิมของป่าดิบเขาและต้นน้ำตามเส้นทางเดินเท้าศึกษาธรรมชาติ มีสัตว์ป่ากว่า 100 ชนิด และทะเลหมอกที่สวยงาม

            นอกจากนี้ วนอุทยานภูลังกายังมีสถานที่น่าสนใจ ได้แก่ ดอยภูลังกา มีความสูงประมาณ 1,720 เมตร สามารถเฝ้าชมวิวทะเลเมฆหมอก ดอกไม้ป่า ชมอาทิตย์ขึ้นลงท่ามกลางทะเลภูเขาสวยงามมาก นอกจากนี้ยังสามารถสัมผัสอากาศเย็นสดชื่นสบายตลอดปี



5.พระตำหนักดอยตุง
พระตำหนักดอยตุง
            พระตำหนักดอยตุง ตั้งอยู่ในเขตอำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย พระตำหนักดอยตุงเคยเป็นที่ประทับแปรพระราชฐานเพื่อทรงงานของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มีรูปทรงผสมผสานระหว่างศิลปะล้านนากับชาเลย์ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีการแกะสลักไม้ตามกาแล เชิงชายและขอบหน้าต่างเป็นลวดลายต่าง ๆ โดยฝีมือช่างชาวเหนือ รอบ ๆ พระตำหนักมีสวนดอกไม้หลากชนิด หลายสี ให้ความสวยงามสดชื่น โดยเฉพาะในฤดูหนาวจะเห็นหมอกจาง ๆ บริเวณยอดเขารอบพระตำหนัก สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ สวนแม่ฟ้าหลวง ตั้งอยู่ด้านหน้าพระตำหนักดอยตุง มีเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ เป็นสวนดอกไม้เมืองหนาว อาทิ ดอกซัลเวีย, พิทูเนีย, บีโกเนีย, กุหลาบ, ดอกลำโพง, ไม้มงคลต่าง ๆ ไม้ยืนต้นและซุ้มไม้เลื้อยอีกมากกว่า 70 ชนิด รูปปั้นต่อเนื่องฝีมือของ คุณมีเซียม ยิบอินซอย หอแห่งแรงบันดาลใจ เป็นอาคารแสดงพระราชประวัติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีและพระราชวงศ์ มีห้องจัดแสดงนิทรรศการ 8 ห้อง เปิดให้เข้าชมทุกวัน และยังมีร้านขายของที่ระลึก เสื้อผ้าไหม ผลิตภัณฑ์จากโครงการหลวง ทั้งผัก ผลไม้ ดอกไม้ พันธุ์ไม้ต่าง ๆ ให้ซื้อกลับไปเป็นของฝากอีกด้วย

            ทั้งนี้ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้าชมทั้งพระตำหนักดอยตุง สวนแม่ฟ้าหลวง และหอแห่งแรงบันดาลใจ จำหน่ายบัตรรวม ราคา 160 บาท ซุ้มจำหน่ายบัตรเปิดเวลา 06.30-18.00 น. หลังเวลา 17.00 น. จำหน่ายเฉพาะบัตรชมพระตำหนักและสวนแม่ฟ้าหลวง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทรศัพท์ 0 5376 7015-7 หรือเว็บไซต์ doitung.org และ เฟซบุ๊ก DoiTung Club

6.อุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์
อุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์
           อุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์ ตั้งอยู่ในท้องที่อำเภอขุนยวมและอำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน สภาพพื้นที่เป็นป่าเขา เรียงรายสลับซับซ้อน มีภูเขาหินและหน้าผาน้อยใหญ่สูงชันในลักษณะที่แตกต่างกันและคล้ายกันที่สวยงามหลายแห่ง เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่อุดมสมบูรณ์ ตลอดจนมีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติที่สวยงาม เช่น น้ำตกแม่สุรินทร์ ซึ่งเป็นน้ำตกขนาดใหญ่เคียงคู่กับทุ่งบัวตอง รวมทั้งลำน้ำปาย ซึ่งมีหาดทรายสวยงาม โดยมี ดอยปุย เป็นจุดที่สูงที่สุดในอุทยานฯ สูงจากระดับน้ำทะเล 1,732 เมตร อากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี นับเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น-ตก ที่สวยงาม และเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง


7.ดอยม่อนแจ่ม
ดอยม่อนแจ่ม
ดอยม่อนแจ่ม


ยอด ดอยม่อนแจ่ม อยู่ใน ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ การเดินทางไม่ทุลักทุเล ใครมีรถพารถมาหย่อนไว้ แล้วเดินสูดบรรยากาศให้ฉ่ำปอด กอดภูเขา สูดเอากลิ่นดอกไม้กันได้เต็มที่ เพราะพื้นที่บน ดอยม่อนแจ่ม ไม่กว้างใหญ่นัก เดินยังไม่ทันเมื่อยก็ได้สัมผัสทิวทัศน์โดยรอบ เตร็ดเตร่ทุกมุมแล้วก็นั่งจิบกาแฟ แชร์ประสบการณ์ สำราญไอเย็นกันแบบเบาๆ



8.พระบรมธาตุดอยสุเทพ


พระบรมธาตุดอยสุเทพ
เป็นปูชนียสถานที่สำคัญยิ่งของเมืองเชียงใหม่ ประดิษฐานอยู่บนดอยสุเทพ สูงจากระดับน้ำทะเล 1,000 เมตร ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของตัวเมือง ห่างจากตัวเมืองเก่าประมาณ 10 กิโลเมตร สามารถมองเห็นจากตัวเมืองได้ชัดเจน

9.ถนนคนเดินท่าแพ จ.เชียงใหม่
ถนนคนเดินท่าแพ
 เป็นสถานที่ช้อปปิ้งสุดฮิตของเมืองเชียงใหม่ เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ภายในคูเมืองบริเวณถนนราชดำเนิน สินค้าที่นำออกมาวางขายมีมากมายทั้งสินค้าพื้นเมือง สินค้า OTOP  

10.อุทยานแห่งชาติเขาค้อ เพชรบูรณ์ภูทับเบิก เพชรบูรณ์

ที่เที่ยว  ที่เที่ยว เพชรบูรณ์  เพชรบูรณ์  เขาค้อ  ไทยเที่ยวไทย  เที่ยวเมืองไทย  ที่เที่ยวไทย  ไปไหนดี  เขารัง  ภูทับเบิก  อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว  อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง  ไร่ บี.เอ็น  แก่งบางระจัน  วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว  อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ  ไร่กำนัลจุล  น้ำตกศรีดิษฐ์
ภูทับเบิก


ยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดเพชรบูรณ์ ด้วยระดับความสูง 1,768 จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่เพิ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปสำรวจ ได้ไม่นานนัก โดยชื่อภูทับเบิกได้มาจากหมู่บ้านม้งทับเบิก ซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้งบนภูเขาสูงของจังหวัดเพชรบูรณ์  ภูทับเบิกโดดเด่นด้วยอุณหภูมิที่หนาวเย็นทั้งปี และไร่กะหล่ำปลีขนาดใหญ่ที่กินพื้นที่ของภูเขาหลายลูกด้วยกัน ตั้งอยู่ที่  ต.วังบาล  อ.หล่มเก่า  จ.เพชรบูรณ์

11.แก่งบางระจัน เพชรบูรณ์
ที่เที่ยว  ที่เที่ยว เพชรบูรณ์  เพชรบูรณ์  เขาค้อ  ไทยเที่ยวไทย  เที่ยวเมืองไทย  ที่เที่ยวไทย  ไปไหนดี  เขารัง  ภูทับเบิก  อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว  อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง  ไร่ บี.เอ็น  แก่งบางระจัน  วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว  อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ  ไร่กำนัลจุล  น้ำตกศรีดิษฐ์
แก่งบางระจัน


แก่งบางระจัน เป็นแก่งน้ำใสไหลเย็น อยู่ที่บ้านหนองแม่นา ต.หนองแม่นา อ.เขาค้อ เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศในแหล่งธรรมชาติ และวิถีชีวิตชุมชน โดยชุมชนท้องถิ่นเป็นผู้บริหารจัดการ ตั้งอยู่ที่ หมู่ 6 ต.หนองแม่นา อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ตำบลหนองแม่นาเป็นตำบลที่มีแหล่งธรรมชาติที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งของอำเภอเขา ค้อ มีลำธาร ซึ่งมีลักษณะเป็นเกาะแก่งหินที่มีน้ำใสไหลเย็นตลอดทั้งปี ในฤดูฝนน้ำจะเอ่อท่วมแก่งมองไม่ค่อยเห็นก้อนหินสวยงามที่ซ่อนตัวอยู่ใต้น้ำ ส่วนช่วงหลังฤดูฝนน้ำจะลดลง ทำให้ความสวยงามของเกาะแก่งหินก็จะออกมาอวดความสวยงามต่อผู้ที่ไปเยือน


12.อุทยานแห่งชาติเขาค้อ เพชรบูรณ์
ที่เที่ยว  ที่เที่ยว เพชรบูรณ์  เพชรบูรณ์  เขาค้อ  ไทยเที่ยวไทย  เที่ยวเมืองไทย  ที่เที่ยวไทย  ไปไหนดี  เขารัง  ภูทับเบิก  อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว  อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง  ไร่ บี.เอ็น  แก่งบางระจัน  วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว  อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ  ไร่กำนัลจุล  น้ำตกศรีดิษฐ์
อุทยานแห่งชาติเขาค้อ


ทิวเขาน้อยใหญ่ที่รวมตัวกันอยู่ในอำเภอเขาค้อ โดยภูเขาที่สำคัญในเทือกนี้ได้แก่ เขาค้อ มียอดเขาสูงประมาณ 1,174 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลพื้นที่ส่วนใหญ่ประกอบด้วยพื้นที่ป่า พื้นที่เกษตรกรรม รวมถึงที่พักและร้านอาหารที่คอยให้บริการนักท่องเที่ยว  นอก จากนั้น เขาค้อยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย เช่น พระตำหนักเขาค้อ วัดพระธาตุผาแก้ว น้ำตกธารทิพย์ อ่างเก็บน้ำรัตนัย เป็นต้น ตั้งอยู่ที่  อ.เขาค้อ  จ.เพชรบูรณ์



เที่ยวภาคอีสาน

1. จูราสสิกพาร์คเมืองไทย



8 สถานที่ เที่ยวอีสาน มหัศจรรย์หนึ่งเดียวของประเทศ
จูราสสิกพาร์คเมืองไทย


ท่องดินแดนไดโนเสาร์ ที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งเป็นแหล่งค้นพบกระดูกไดโนเสาร์มากมาย รวมถึงสายพันธุ์ใหม่ของโลก ได้ที่ พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง จ.ขอนแก่น และพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูกุ้มข้าว อ.สารขันธุ์ จ.กาฬสินธุ์ เป็นแหล่งเรียนรู้ทางธรณีวิทยาที่สมบูรณ์ที่สุด ในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้
 2. เชียงคาน จังหวัดเลย



ชียงคาน เป็นอำเภอเล็ก ๆ ริมฝั่งแม่น้ำโขงสงบเงียบ ในย่านชุมชนยังคงมีห้องแถวไม้ บ้านไม้เก่า แก่ที่ยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้ เป็นเสน่ห์ที่สุดคลาสสิกของเชียงคาน บางแห่งตกแต่งทำเป็นที่พัก ร้านอาหาร ร้านค้าสำหรับรองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนแบบสบาย ๆ ใกล้ชิดกับชุมชน กิจกรรมที่น่าสนใจ คือตักบาตรตอนเช้า ชมวัด และล่องเรือชมทิวทัศน์สองฝั่งโขง สินค้าที่ขึ้นชื่อของเชียงคาน คือ ผ้านวม  มะพร้าวแก้ว ซึ่งนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนไม่ควรพลาดที่จะซื้อเป็นของฝาก

3. เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง จังหวัดเลย



ภูหลวง มีความหมายว่าเขาที่สูงใหญ่ หรือหมายถึงภูเขาของพระเจ้าแผ่นดิน เกิดจากการยกตัวของพื้นผิวโลกและดินส่วนที่อ่อนพัดพาลงสู่พื้นที่ส่วนต่ำ ภูหลวงประกาศให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2517 มีพื้นที่ประมาณ 560,593 ไร่ สภาพทั่วไปเป็นพื้นที่ราบสูง อากาศเย็นตลอดปี ตั้งอยู่ในบริเวณท้องที่อำเภอวังสะพุง อำเภอภูเรือ อำเภอด่านซ้าย และอำเภอภูหลวง ฤดูกาลบนภูหลวงมี 3 ฤดู เหมือนพื้นราบแต่ระดับอุณหภูมิต่างกัน

4. อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง จังหวัดบุรีรัมย์



 อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง ตั้งอยู่บ้านตาเป็ก อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ ประกอบด้วยโบราณสถานสำคัญคือ ปราสาทหินพนมรุ้ง ตั้งอยู่บนยอดภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว สูงประมาณ 200 เมตร (คำว่า พนมรุ้ง หรือ วนํรุง เป็นภาษาเขมรแปลว่า ภูเขาใหญ่) โดยเป็นเทวสถานในศาสนาฮินดู ลัทธิไศวนิกาย มีการบูรณะก่อสร้างต่อเนื่องกันมาหลายสมัย ตั้งแต่ประมาณพุทธศตวรรษที่ 15 ถึงพุทธศตวรรษที่ 17 และในพุทธศตวรรษที่ 18 พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 แห่งอาณาจักรขอม ได้หันมานับถือพุทธศาสนาลัทธิมหายาน เทวสถานแห่งนี้จึงได้รับการดัดแปลงเป็นศาสนสถานในพุทธศาสนาในช่วงนั้น

5. แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง จังหวัดอุดรธานี



พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเชียง หรือ แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง เป็นแหล่งทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศไทย ตั้งอยู่ที่อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี มีพื้นที่ประมาณ 25 ไร่เศษ จัดแสดงวิถีชีวิตของมนุษย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์อายุราว 1,822-4,600 ปี เป็นแหล่งท่องเที่ยวให้รับรู้ถึงการดำรงชีวิตในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ คือ ย้อนหลังไปกว่า 5,000 ปี

6. ดินแดนแห่งทุ่งดอกกระเจียวงาม จังหวัดชัยภูมิ



จังหวัดชัยภูมิ ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวอยากจะไปเยือนเมื่อดอกกระเจียวผลิบาน โดยเฉพาะพื้นที่ อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม และ อุทยานแห่งชาติไทรทอง ซึ่งเป็นที่ตั้งของทุ่งดอกกระเจียวป่าสีชมพูสีสันสดใสงดงามตัดกับสีเขียวของลำต้นและใบหญ้า ขึ้นแทรกอยู่เป็นระยะท่ามกลางต้นหญ้าและและป่าไม้นานาชนิด 


7. สามพันโบก จังหวัดอุบลราชธานี



สามพันโบก จังหวัดอุบลราชธานี สถานที่ที่ถูกเรียกว่า “แกรนด์แคนยอนเมืองไทย” ด้วยมีลักษณะของความงามของแก่งหินขนาดใหญ่ในลำน้ำโขง และวิถีชีวิตริมคลองสองฝั่งโขงนั้นงดงาม จนน่ามหัศจรรย์ไม่แพ้แกรนด์แคนยอน รัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา โดยสามพันโบกเป็นแก่งหินที่อยู่ใต้ลำน้ำโขง เนื่องจากในช่วงฤดูน้ำหลากแก่งหินแห่งนี้จะจมอยู่ใต้บาดาล และด้วยแรงน้ำวนกัดเซาะทำให้แก่งหินกลายเป็นแอ่งเล็กใหญ่ จำนวนมากกว่า 3,000 แอ่ง หรือสามพันโบก โดยคำว่า “โบก” ภาษาท้องถิ่นนั้นแปลได้ว่า “แอ่ง” จนเป็นที่มาของชื่อ “สามพันโบก” ในช่วงหน้าแล้งสามพันโบกจะโผล่พ้นน้ำให้เห็นเป็นคล้ายภูเขากลางลำน้ำโขง ความสวยงามวิจิตรของหินที่ถูกน้ำเซาะมองเห็นเป็นภาพศิลปะ บางแอ่งใหญ่ขนาดเป็นสระว่ายน้ำ บางแอ่งขนาดเล็ก มีรูปร่างลักษณะที่แตกต่างกันออกไปตามจินตนาการที่สวยงามและน่าอัศจรรย์



เที่ยวภาคกลาง



Vana Nava Hua Hin 



ประตูความสนุกสนานแบบชุ่มฉ่ำเร้าใจพร้อมแล้วที่จะเปิดให้เข้าไปได้สัมผัสกับคำว่า "ที่สุดสวนน้ำระดับโลก" วานา นาวา หัวหิน แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของประเทศไทย ที่พลิกโฉมนิยามของคำว่าสวนน้ำ รวบรวมสุดยอดความบันเทิงสำหรับครอบครัวและกิจกรรมไลฟ์สไตล์นานาชนิดไว้อย่างครบครัน กับคอนเซ็ปต์ "วอเตอร์ จังเกิ้ล" แห่งแรกของภูมิภาคเอเชีย

รฤก หัวหิน




 นอกจากจะเป็นสถานที่เที่ยวใหม่ที่จะนำพาเราย้อนรำลึกเมืองหัวหินในช่วงอดีตแล้ว รฤก หัวหิน ยังเป็นแหล่งรวมร้านค้า ร้านอาหาร เครื่องดื่มที่ทั้งอร่อย สะอาด ราคาย่อมเยา บรรยากาศน่านั่งฟังดนตรีและชมการแสดงที่ถ่ายทอดวิถีชีวิตของคนสมัยก่อนผ่านภาพเก่าของหัวหิน บนเรือนไม้ร่วม 100 ปี คละเคล้าบรรยากาศทะเล ๆ ซึ่งที่นี่สร้างขึ้นภายใต้แนวคิดที่ว่า จุดพักริมชายทะเลใกล้เมือง ร้อยเรื่องราวอดีตหัวหินในวันวาน ร่วมสืบสานความเป็นพื้นเมือง รำลึกถึงความเป็นหัวหิน ที่นัดพบและมุมอร่อยภายใต้บรรยากาศสุดชิล ๆ พร้อมทั้งยังถือเป็นจุดนัดพบในบรรยากาศสไตล์สมัยใหม่กึ่งย้อนยุค ให้เหล่าเพื่อน ๆ ได้ร่วมเฮฮาตลอดทั้งวัน ดื่มด่ำกับบรรยากาศเรียบง่าย สบาย ๆ และรับรู้ถึงกลิ่นอายความเป็นหัวหินเมื่อครั้งอดีต         
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน วันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 10.00-20.30 น. และวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-21.00 น.
          ที่อยู่ : ซอยหัวหิน 51 ถนนแนบเคหาสน์ ตำบลหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
          โทรศัพท์ : 08 9764 5466, 08 6345 8668


Black Mountain Water Park




Black Mountain Water Park เป็นสวนน้ำในหัวหินที่ได้รับมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงสุด ด้วยการมาพร้อมกับอุปกรณ์เครื่องเล่นอันทันสมัย คุณภาพเยี่ยม โดดเด่นด้วยหอคอยสูง 17 เมตร และเครื่องเล่นสไลเดอร์อันน่าตื่นเต้นกว่า 9 แบบ รวมไปถึง Wave Pool, Lazy River, ชายหาดเทียม, สวนน้ำสำหรับเด็ก ที่จะมาร่วมสร้างคลื่นยักษ์ให้คุณได้สุดเหวี่ยงไปกับท้องทะเลในฝัน เปลี่ยนวันธรรมดาของคุณให้กลายเป็นวันสนุกกับสวนน้ำที่ดีที่สุด เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับพาเด็ก ๆ มาเล่นน้ำคลายร้อน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00-17.00 น.และวันเสาร์ เปิดช่วงกลางคืน เวลา 18.00-21.00 น.
ที่อยู่ : อยู่ถนนบายพาสชะอำ-หัวหิน กิโลเมตรที่ 25 อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
โทรศัพท์ : 09 0446 6129, 0 3261 8444 และ 0 3261 8445


ไร่องุ่นหัวหินฮิลส์ วินยาร์ด




ท่องเที่ยวไร่องุ่นในบรรยากาศชิล ๆ เต็มไปด้วยต้นองุ่นเขียวขจีไปทั่วภูเขา ขนาดใหญ่ 200 ไร่ มีแต่ต้นองุ่นเขียวไปหมด ล้อมรอบด้วยภูเขา เป็นภาพที่สวยมาก ๆ ไร่องุ่นของที่นี่เป็นของบริษัทสยามไวเนอนี่ ที่ผลิตไวน์ไทย มอนซูน แวลลีย์ โดยจะปลูกองุ่นสายพันธุ์ชีราสและโคลอมบาร์ด เนื่องจากเหมาะกับสภาพอากาศร้อนในประเทศไทย ส่วนกิจกรรมที่น่าสนใจของที่นี่ คือ การนั่งช้างชมบรรยากาศของไร่องุ่น รอบละ 15 นาที รวมทั้งการบริการจักรยานปั่นรอบไร่องุ่น นอกจากนี้ ยังมีร้านอาหารบรรยากาศดี ๆ ชื่อ เดอะศาลา ตั้งที่อยู่บนเนินเขา ให้ได้นั่งทานข้าวเคล้าทัศนียภาพสวย ๆ
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.30-18.30 น.
          ที่อยู่ : 1 ม. 9 บ.คอกช้างพัฒนา ต.หนองพลับ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
          โทรศัพท์ : 08 1701 0222



ฟาร์มแกะดำ หัวหิน




ฟาร์มแกะดำหัวหิน หรือ Black Sheep Hua Hin Fun Farm ฟาร์มแกะในร่มที่แรกและที่เดียวของประเทศไทย ภายใต้คอนเซ็ปต์ที่ว่า "ฟาร์มแกะในร่ม ไม่ร้อนทั้งคนทั้งแกะ" ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 15 ไร่ เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับเดินทางเที่ยวได้สัมผัสบรรยากาศที่ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ปกคลุมทั่วทั้งฟาร์ม เน้นความเรียบง่าย เป็นกันเอง ให้ผู้ที่มาเที่ยวชมได้รู้สึกผ่อนคลายกับบรรยากาศสบาย ๆ ด้วยการสร้างฟาร์มเล็กๆ ที่มีทั้งแกะ แพะ กวาง กระต่าย และไก่งวง ให้น้อง ๆ หนู ๆ ได้ให้อาหารสัตว์กันอย่างเพลิดเพลิน นอกจากนี้ ที่ฟาร์มยังมีผลิตภัณฑ์ของฝากซึ่งทำมาจากแกะให้ได้ช้อป อาทิ สบู่นมแกะ NZ, สบู่นมวัว NZ และสบู่สมุนไพรธรรมชาติ ทั้งสบู่มังคุด ตะไคร้ ขมิ้น มะละกอ และมะขาม ช่วยทั้งรักษาผิวหน้าและบำรุงผิวกาย, ทอฟฟี่นมแกะ, ของฝากน่ารัก ๆ ที่มีหลากหลายรสให้เลือก รวมถึงผลิตภัณฑ์นมแกะรสชาติต่าง ๆ
      เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน จันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00-17.00 น. และเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.30-17.30 น.
     ที่อยู่ : 150 หมู่7 ตำบลทับใต้ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
     โทรศัพท์ : 08 6672 7737, 08 6170 9240, 08 4718 9318



น้ำตกป่าละอู


เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีความสูง 15 ชั้น ไหลลดหลั่นลงมาเป็นทางยาว ชั้นที่ 1-3 เหมาะสำหรับการเล่นน้ำ ส่วนน้ำตกชั้นที่สวยที่สุด คือ น้ำตกชั้นที่ 7 เพราะมีแอ่งน้ำใหญ่อยู่ท่ามกลางป่าร่มครึ้ม ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะชมความงามของน้ำตกถึงบริเวณชั้น 7 เท่านั้น เนื่องจากน้ำตกชั้นที่สูงขึ้นไปต้องปีนป่ายไปตามโขดหินสูงชัน โดยจากชั้นที่ 7 เป็นทางสามแพร่ง หากไปทางขวาจะไป น้ำตกคลองปราณ ใช้เวลาเดินประมาณ 1 วัน จึงจะถึง หากไปทางซ้ายจะเข้าเขตป่าละอู ซึ่งเป็นถิ่นอาศัยของชาวกะเหรี่ยง กะหร่าง และจากน้ำตกชั้นที่ 15 ไปอีกไม่ไกลจะถึงเขตพรมแดนไทย-พม่า ทั้งนี้ คำว่า ละอู เป็นภาษากะเหรี่ยง แปลว่า ไผ่ ดังนั้น ป่าละอู คือ ป่าไผ่ นั่นเอง แต่บางคนเห็นว่าป่าแห่งนี้เต็มไปด้วยหญ้าเลาที่ออกดอกสีเทาหม่น จึงเรียกป่าผืนนี้อีกชื่อว่า ห้วยป่าเลา โดยวันที่ 2 มกราคมของทุกปี ที่ หมู่บ้านป่าละอู จะมีงานวันอนุรักษ์วัฒนธรรม มีการแสดงการควงกระบองไฟและไหว้พระจันทร์
ที่อยู่ : อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน (ตอนใต้) อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์                       โทรศัพท์ : 08 7161 2922

สวนสนประดิพัทธ์




เป็นสถานที่พักผ่อนอีกหนึ่งที่ตั้งอยู่ในส่วนของกองทัพบก ห่างจากตัวอำเภอหัวหินประมาณ 7 กิโลเมตร พื้นที่ด้านหน้าติดถนนเพชรเกษม ส่วนด้านหลังติดริมชายหาด ซึ่งมีความสวยงาม ใสสะอาด ความสวยงามของเม็ดทราย น้ำทะเลคล้ายกัน แต่เสน่ห์ของหาดสวนสนที่น่าประทับใจกว่า ก็คือ บรรยากาศที่เงียบสงบ ร่มรื่นด้วยทิวสนประดิพัทธ์ตลอดแนวหาด และยังคงความเป็นธรรมชาติไว้ได้เป็นอย่างดี
ที่อยู่ : ถ.เพชรเกษม  ต.หนองแก  อ.หัวหิน  จ.ประจวบคีรีขันธ์
โทรศัพท์ : 0 3253 6581, 08 1986 6984

The Cicada Market


The Cicada Market หรือตลาดจักจั่น เป็นตลาดยามเย็น โดยปรับปรุงจากบ้านพักตากอากาศอายุเก่าแก่กว่า 60 ปี มาเป็นสวนยามเย็นที่เต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจี บนเนื้อที่ 10 ไร่ ตลาดแห่งนี้เกิดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ "Open Mind & Open Mat : เปิดเสื่อ-เปิดใจ-เปิดไอเดีย" ดังนั้น ที่นี่จึงเป็นแหล่งสำหรับจำหน่ายงานศิลปะร่วมสมัยแขนงต่าง ๆ รวมไปถึงสิ่งประดิษฐ์ งานแฮนด์เมด ของตกแต่งบ้าน เสื้อผ้า สิ่งของเครื่องใช้มือสอง สินค้าที่มีสไตล์การออกแบบอย่างสร้างสรรค์ ในส่วนของการเปิดใจและเปิดไอเดียนั้น ในทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ จะมีกิจกรรม Workshops จากกลุ่มชมรมต่าง ๆ เช่น กลุ่มเล่านิทาน กลุ่มละคร กลุ่มเต้นรำ กลุ่มถ่ายภาพ กลุ่มนักแสดงเปิดหมวก ฯลฯ ที่ผลัดกันมาสร้างสีสันและสุนทรียภาพให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเยือน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ศุกร์ เสาร์ และวันอาทิตย์ เวลา 16.00-23.00 น.
ที่อยู่ : 83/159 ซ.หมู่บ้านหนองแก ต.หนองแก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
โทรศัพท์ : 0 3253 6606, 08 0650 4334, 08 1880 4004


เพลินวาน หัวหิน


สถานที่สำหรับเข้าไปซึมซับบรรยากาศความสุขสไตล์ย้อนยุค เกิดขึ้นจากความตั้งใจที่จะให้เป็นศูนย์รวมแห่งความสุข และการเรียนรู้รากเหง้าการดำเนินชีวิตแบบดั้งเดิมในวันวาน ตามสโลแกน "Play and Learn ในวันวาน" โดยเพลินวานถูกสร้างขึ้นมาให้เป็นย่านการค้าย้อนยุคที่มีชีวิต ด้านในเป็นที่ตั้งร้านค้าต่าง ๆ กว่า 40 ร้าน เรียงรายให้ได้ชมกันอย่างเพลิดเพลิน ทั้งร้านอาหาร, ร้านกาแฟ, ร้านเสื้อผ้า, ร้านโชว์ห่วย และร้านขายเทปคลาสสิก ฯลฯ ซึ่งแต่ละร้านจะมีการออกแบบเน้นสไตล์ย้อนยุคด้วย
  เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี ตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น. วันศุกร์ เปิดเวลา 10.00-24.00 น. วันเสาร์เปิดเวลา 09.00-24.00 น. และวันอาทิตย์เปิดเวลา 09.00-22.00 น. (โดยไม่เสียค่าเข้าชม)
  ที่อยู่ : ซ.38 ใกล้เขตพระราชวังไกลกังวล ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
  โทรศัพท์ : 0 3252 0311 ต่อ 101


เดอะ เวเนเซีย หัวหิน (The Venezia Huahin)


เวเนเซีย หัวหิน เป็นช้อปปิ้งคอมเพล็กซ์ที่สร้างขึ้นใหม่ ซึ่งเป็นโครงการที่จำลองเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี มาไว้ที่เมืองไทย โดยภายในโครงการมีสิ่งอำนวยความสะดวกสามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการสัมผัสความเป็นเวนิสได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังมีการจำลองจัตุรัสเซ็นต์มาร์ค (St. Mark Square) และหอระฆัง (Bell Tower) สัญลักษณ์ของเมืองเวนิส ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลกมาไว้ที่ด้านหน้าโครงการ เพื่อเป็นลานกิจกรรมขนาดใหญ่ และจุดชมวิวอีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความเป็นเวนิส คือ คลองแกรนด์คาแนล (Grand Canal) ความยาวกว่า 200 เมตร ที่มีเรือกอนโดลาล่องไปในบรรยากาศเสมือนอยู่ในเวนิสจริง ๆ ส่วนทางด้านสถาปัตยกรรมการออกแบบอาคารในแต่ละโซนจะมีรูปแบบสีสันที่แตกต่างกัน โดยล้อไปกับสถาปัตยกรรมในแต่ละเกาะของเมืองเวนิส ล้อมรอบด้วยการจัดวางภูมิทัศน์ที่งดงาม ประกอบด้วยสวนดอกไม้นานาพรรณ ลานน้ำพุ และงานประติมากรรมที่บ่งบอกความเป็นเวนิสอย่างแท้จริง       
ที่อยู่ : 1899 ถนนเพชรเกษม (ทรายใต้) ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี
โทรศัพท์ : 0 3244 2823-5, 0 8384 2230-1


สถานีรถไฟหัวหิน
หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในอำเภอหัวหิน ซึ่งเอกลักษณ์ของสถานีรถไฟแห่งนี้ คือ พลับพลาพระมงกุฎเกล้าฯ เป็นพลับพลาจัตุรมุข สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยพลับพลานี้มีไว้ในการที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ เสด็จประทับทอดพระเนตรกองเสือป่าและลูกเสือทั่วประเทศทำการฝึกซ้อมยุทธวิธีเป็นประจำทุกปี หลังจากสิ้นรัชสมัยของพระองค์ การรถไฟแห่งประเทศไทยจึงได้รื้อถอนมาเก็บไว้ และเพื่อเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ต่อมาในปี พ.ศ. 2511 จึงได้มีการนำเครื่องอุปกรณ์ก่อสร้างของพลับพลาสนามจันทร์มาปลูกสร้างขึ้นใหม่ที่หัวหิน เพื่อเป็นที่ประทับขึ้นและลงรถไฟของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พร้อมตั้งชื่อใหม่ว่า “พลับพลาพระมงกุฎเกล้าฯ” ซึ่งถือเป็นสถานีรถไฟที่เชิดหน้าชูตาของชาวอำเภอหัวหิน และยังเป็นที่เก็บหัวรถจักรไอน้ำเก่าที่การรถไฟฯ สั่งซื้อมาจากประเทศอังกฤษ อีกทั้งยังเคยวิ่งให้บริการในเส้นทางรถไฟก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้วย
 ที่อยู่ : ต.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
 โทรศัพท์ : 0 3251 1073


ตลาดโต้รุ่งหัวหิน


เริ่มต้นจากที่เที่ยวที่แรก ตลาดโต้รุ่งหัวหิน เป็นตลาดกลางถนนเดชานุชิต ที่มีการปิดถนนไม่ให้รถผ่าน เพื่อทำเป็นถนนคนเดิน ให้คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวได้เดินจับจ่ายซื้อของกิน ของใช้ และของที่ระลึก โดยถนนดังกล่าวตัดตั้งฉากกับถนนเพชรเกษม จึงหาได้ไม่ยากนัก ตลาดเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 18.00–24.00 น. และหนึ่งในบรรดาร้านรวงต่าง ๆ ที่เหล่าบรรดานักท่องเที่ยวต่างยกนิ้วให้ ก็คือ โรตีอินเตอร์ และไอศกรีมโฮมเมดร้านเจ๊นิ
ที่อยู่ : ซ.หัวหิน 72 ถนนเดชานุชิต-ถนนพระปกเกล้าฯ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์


ชายหาดหัวหิน

 สถานที่ยอดนิยมตลอดกาลของหัวหิน นั่นก็คือ ชายหาดหัวหิน ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของตัวเมือง มีทางลงหาดอยู่ที่ถนนดำเนินเกษม สองข้างทางลงหาดมีโรงแรมและร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก โดยหาดหัวหินมีความยาวประมาณ 5 กิโลเมตร ทรายขาวละเอียดเหมาะสำหรับเล่นน้ำทะเล
Feraza Farm

 ไม่ต้องบินไปไกลถึงนิวซีแลนด์คุณก็จะได้สัมผัสกับทุ่งหญ้าและเนินเขาที่สวยงาม อากาศเย็นสบาย พบบรรยากาศแห่งทิวเขาตะนาวศรีที่ทอดยาวกั้นเส้นขอบฟ้า พร้อมกับฟาร์มแกะนับร้อยตัวได้ ณ Feraza Farm ฟาร์มที่เข้าใจถึงความต้องการที่จะสัมผัสกับความสงบและผ่อนคลายที่เจือไปด้วยความสนุกสนาน ที่ทุกคนในครอบครัวสามารถร่วมสนุกด้วยกันได้ เพราะคุณจะได้คุณเพลิดเพลินอย่างเต็มที่กับวันพักผ่อน เช่น การขับรถ ATV ในทุ่งกว้าง, เยี่ยมชมฟาร์มแกะ (สัมผัสกับแกะได้อย่างใกล้ชิด), กิจกรรมตามฤดูกาล และลิ้มรสอาหารที่ FERAZA RESTAURANT
ที่อยู่ : 1/4 หมู่ 10 ตำบลท่าเคย อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
โทรศัพท์ : 08 6884 2285 และ 08 9811 8389



New Land



Newland เป็นดินแดนแห่งความสุขที่จะพาคุณย้อนกลับไปสนุกสดใสเหมือนในวัยเด็กอีกครั้ง กับกิจกรรมที่คอยต้อนรับมากมาย ทั้งขบวนรถไฟเล็กแสนสนุกที่จะพาไปชมบรรยากาศรอบ ๆ ไร่ ซึ่งมีไฮไลท์อยู่ที่สถานีเลี้ยงแกะ ที่รอให้คุณหนู ๆ มาป้อนนม ให้อาหาร และอุ้มถ่ายรูปกันอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรม ATV ทั้งสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ กิจกรรมยิงธนู สำหรับนักท่องเที่ยวขาลุย ซุ้มเล่นเกมต่าง ๆ และมุมสวย ๆ ไว้ถ่ายรูปอวดเพื่อนสำหรับคนที่รักการถ่ายรูป รวมถึงร้านอาหารและโซนของฝากที่คัดสรรแต่ของอร่อยมีคุณภาพมาเป็นอย่างดี เอาใจนักท่องเที่ยวขาช้อปที่ต้องการของติดไม้ติดมือกลับบ้าน
วันเวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-19.00 น.
ที่อยู่ : 214 หมู่ 2 ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
โทรศัพท์ : 08 0111 5892 และ 08 9746 4215

The Scenery Vintage Farm


 สถานที่ท่องเที่ยวแบบ One Day Trip ไม่มีที่พักค้างคืน ให้บริการเยี่ยมชมฟาร์ม, ให้อาหารน้องแกะ, มีร้าน Honey Scene ที่ให้บริการอาหาร เครื่องดื่ม ไอศกรีม และขนม, ให้บริการถ่ายรูปแบบวินเทจ, มีซุ้มเกมการละเล่นต่าง ๆ มากมาย เช่น ยิงธนู ยิงเป้า, มีร้าน Sheepie Sheep จำหน่ายเสื้อผ้า สินค้าที่ระลึก สินค้าตกแต่งบ้าน สินค้าท้องถิ่นที่มีคุณภาพ เช่น น้ำผึ้ง
วันเวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-18.00 น. วันเสาร์, วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.30-18.30 น.
ที่อยู่ : 234 หมู่ 7 อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
โทรศัพท์ : 08 1000 6677 (ในเวลา 08.30-16.30 น.)

น้ำตกเก้าชั้น
 น้ำตกเก้าชั้น หรือเก้าโจน (เก้ากระโจน) ตั้งอยู่ที่บ้านห้วยผาก หมู่ 7 ตำบลผาผึ้ง เลยจากธารน้ำร้อนบ่อคลึงไปประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นน้ำตกขนาดกลาง มีความสูง 9 ชั้น ตกจากหน้าผาสูงกลางหุบเขา มีน้ำตลอดปีปริมาณน้ำจะมากในชั้นบน ๆ  หินบริเวณน้ำตกเป็นหินแกรนิต แต่เดิมน้ำตกนี้รู้จักกันเฉพาะในกลุ่มชาวกะเหรี่ยง ต่อมาบริษัทต่างชาติเข้ามารับสัมปทานเหมืองแร่เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2484 จากนั้นเมื่อหมดสัมปทานทางอำเภอและกลุ่มองค์กรท้องถิ่นจึงได้เข้ามาดูแลพื้นที่ ซึ่งการเดินไปชมน้ำตกจากลานจอดรถเดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 500 เมตร จะถึงบริเวณน้ำตกชั้นล่าง ซึ่งสามารถเดินเท้าขึ้นไปถึงชั้นสุดท้ายได้ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง
วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.00-16.30 น.
ที่อยู่ : บ้านห้วยผัก หมู่ 7 ตำบลผาผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
โทรศัพท์ :  ททท. สำนักงานเพชรบุรี (เพชรบุรี, ราชบุรี) โทรศัพท์ 0 3247 1005-6, 0 3247 1502 เวลา 08.30-16.30 น.

ธารน้ำร้อนบ่อคลึง


เดินทางจากตัวอำเภอสวนผึ้งไปประมาณ 5 กิโลเมตร จะพบแยกเข้าสู่ธารน้ำร้อนบ่อคลึงตรงไปอีก 10 กิโลเมตร บ่อคลึงเป็นธารน้ำร้อนธรรมชาติที่มีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาตะนาวศรี จะมีน้ำไหลอยู่ตลอดปี เป็นน้ำร้อนบริสุทธิ์ อุณหภูมิของน้ำประมาณ 120-136 องศาฟาเรนไฮต์ ในช่วงฤดูหนาวยามเช้าไอน้ำร้อนจะลอยกรุ่นเป็นหมอกสวยงาม มีบ่อน้ำร้อนธรรมชาติและสระน้ำกระเบื้องสำหรับอาบน้ำร้อนธรรมชาติ
  วันเวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00-17.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.00-18.00 น.
  ที่อยู่ : บ้านห้วยผาก หมู่ที่ 7 ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
  โทรศัพท์ :  0 3232 9025, 0 3271 1086


อัลปาก้าฮิลล์ สวนผึ้ง



          อัลปาก้าฮิลล์ ฟาร์มอัลปาก้าแห่งแรกและแห่งเดียวที่ใหญ่ที่สุดของไทย ดินแดนอันแสนสวยงามซึ่งเต็มไปด้วยอัลปาก้าขนปุย วิ่งเล่นอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้าสีเขียวกว่า 250 ไร่ โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น ป้อน กอด และหยอกล้อกับสัตว์ที่เป็นมิตรอันหลากหลาย ทั้งอัลปาก้า จิงโจ้แคระ กระต่ายยักษ์ หนูตะเภา และอื่น ๆ อีกมากมาย อ๊ะ ๆ แต่เนื่องจากมีผู้ให้ความสนใจเข้าชมน้องอัลปาก้าเป็นจำนวนมาก เกินกว่าที่กำหนดไว้ต่อวัน (เพียง 200 ท่าน/วัน) อัลปาก้าฮิลล์จึงจะรับลูกค้าผ่านระบบทางการจองออนไลน์ผ่านเว็บไซต์เท่านั้น (สอบถามรายละเอียดได้ที่ 08 0821 2108/08 1145 9565)
 ที่อยู่ : 357 หมู่ 8 ถนนผาปก-ตะโกล่าง ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี       
วันเวลาเปิด-ปิด : วันศุกร์ เวลา 09.30-18.00 น., วันเสาร์ เวลา 09.00-18.30 น. และอาทิตย์ เวลา 09.00-18.00 น.



บ้านหอมเทียน





  ถือเป็นอีกหนึ่งแลนมาร์คของอำเภอสวนผึ้งก็ว่าได้ สำหรับ “บ้านหอมเทียน” ประมาณว่าใครไปสวนผึ้งแล้วไม่ได้ไปที่นี่ถือว่าไปไม่ถึงนะจ๊ะ เพราะนอกจากจะมีเทียนหอมรูปร่างแปลกตาน่ารักน่าชัง ของฝาก และของทำมือดีไซน์เก๋ให้เลือกช้อป เลือกดูกันแล้ว ยังมีกิจกรรมทำเทียน, ร้านอาหาร, ร้านกาแฟ, มุมศิลปะอย่าง, วาดภาพเหมือน และบริการนวดแผนไทย ฯลฯ แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือมุมโพสท่าถ่ายภาพเก๋ ๆ แจ่ม ๆ ที่มีให้เลือกสรรกันตามใจกันเพียบ
ที่อยู่ : อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
โทรศัพท์ : 08 1995 8144, 0 2402 8032



เที่ยวภาคใต้

เกาะลันตา


 เกาะลันตา เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดกระบี่ โดยเป็นเกาะขนาดใหญ่ที่มีผู้คนอาศัยต่อเนื่องมายาวนานกว่าร้อยปี ประกอบด้วย เกาะลันตาใหญ่ และ เกาะลันตาน้อย แหล่งท่องเที่ยวส่วนใหญ่อยู่บนเกาะลันตาใหญ่ ขณะที่เกาะลันตาน้อยเป็นที่ตั้งของที่ว่าการอำเภอเกาะลันตา ด้วยระยะทางที่ห่างไกลจากแผ่นดินเกาะลันตาจึงยังคงความสวยงามของหาดทรายและน้ำทะเลสะอาด อีกทั้งยังมีวิถีชีวิตของชาวเกาะดั้งเดิม ที่มีทั้งชาวไทยพุทธ ชาวไทยจีน ชาวไทยมุสลิม และชาวไทยใหม่ (ชาวเล) อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ผสานกับความเจริญทางด้านหัวเกาะแถบท่าเรือและชายหาดฝั่งตะวันตก ซึ่งคึกคักด้วยนักท่องเที่ยว การมาเยือนเกาะลันตาจึงได้เที่ยวหลายบรรยากาศในคราวเดียวกัน


เกาะปันหยี

เกาะปันหยี ตั้งอยู่ในบริเวณอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา หมู่ 1 บ้านท่าด่าน ตำบลเกาะปันหยี อำเภอเมือง จังหวัดพังงา เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่ยังคงวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมเอาไว้อย่างเหนียวแน่น มีชุมชนชาวประมงโบราณกว่า 200 ปี ที่อาศัยพื้นที่ราบหลังเกาะปันหยีเป็นที่หลบฝน และตั้งหมู่บ้านน้อย ๆ ขึ้นมา โดยแต่ละบ้านจะยกพื้นสูงเหนือน้ำ ชาวบ้านทั้งหมดเป็นชาวมุสลิม และอุทิศที่ราบเล็ก ๆ ของเกาะปันหยีให้เป็นมัสยิด ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของผู้คน หากนักเดินทางมาสัมผัสบนเกาะปันหยีแห่งนี้ จะได้ชมวิถีชีวิตพื้นบ้านแบบชาวเลแท้ ๆ ที่มีศาสนาอิสลามหลอมรวมจิตใจผู้คน

สุสานหอย



อยู่บริเวณชายทะเลบ้านแหลมโพธิ์ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 17 กิโลเมตร ใช้เส้นทางไปหาดนพรัตน์ธารา เมื่อถึงบ้านไสไทย ใช้เส้นทางหมายเลข 4204 จะมีป้ายบอกทางไปสุสานหอย บริเวณที่เป็นสุสานหอยแห่งนี้ เดิมเป็นหนองน้ำจืดขนาดใหญ่ มีหอยอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะหอยขม มีขนาดราว 2 เซนติเมตร ต่อมาเกิดการเปลี่ยนแปลงบริเวณพื้นผิวโลก น้ำทะเลไหลเข้ามาท่วมบริเวณหนองน้ำจนหมด ทำให้ธาตุหินปูนในน้ำทะเลจับตัวเปลือกหอยใต้น้ำจนเป็นเนื้อเดียวกัน กลายเป็นแผ่นหินแข็งที่เรียกว่า Shelly Limestone หนาประมาณ 40 เซนติเมตร เมื่อแผ่นดินบริเวณนี้ถูกยกตัวขึ้นสูง ซากฟอสซิลเหล่านี้จึงปรากฏให้เห็นเป็นลานหินกว้างใหญ่ยื่นลงไปในทะเล จากการคำนวณหาอายุทางธรณีวิทยาพบว่า ฟอสซิลนี้มีอายุราว 40 ล้านปี


อ่าวนาง

อยู่ห่างจากหาดนพรัตน์ธารา ตามถนนเลียบชายทะเลระยะทาง 6 กิโลเมตร เป็นชายหาดยาว มีที่พัก ร้านค้า และบริษัทนำเที่ยวให้บริการหลายแห่ง  ทิวทัศน์โดยรอบสวยงามแปลกตาด้วยภูเขาหินปูนตั้งตระหง่าน ท้องทะเลในบริเวณอ่าวนางมีเกาะน้อยใหญ่กว่า 83 เกาะ บางเกาะมีรูปร่างประหลาดคล้ายรองเท้าบู๊ท เรือสำเภา และหัวนก เกาะที่มีหาดทรายสวยงามและคนนิยมไปเที่ยวเล่นน้ำชมปะการังน้ำตื้นได้แก่ เกาะปอดะ เกาะหม้อ และเกาะทัพ  จากอ่าวนางสามารถเช่าเรือไปเที่ยวยังเกาะบริเวณใกล้เคียง รวมทั้งชายหาดด้านทิศตะวันออกได้ด้วย


ทะเลแหวก

ปรากฎการณ์ทะเลแหวกจะเกิดขึ้นทุกวันขึ้นหรือแรม 12 ค่ำไปจนถึง 5 ค่ำ เมื่อระดับน้ำลดลงต่ำสุดจนปรากฎสันทรายเสมือนทะเลแหวกออกจนกลายเป็นหาดทรายสีขาวสะอาด เชื่อมเกาะทั้งสามเกาะ ได้แก่ เกาะทัพ เกาะหม้อ และเกาะด้ามหอกด้ามขวานหรือเกาะไก่อย่างน่าอัศจรรย์  (ทั้งสามเกาะนี้อยู่ใกล้กับเกา่ะปอดะ ) ฤดูกาลท่องเที่ยวคือเดือนพฤศจิกายน ถึงต้นเดือนพฤษภาคมของทุกปี สามารถเช่าเรือได้จากบริเวณอ่าวนาง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 25 นาที ราคาเรือหางยาวเที่ยวไป-กลับคนละ 300 บาท


อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน อยู่ตำบลเกาะพระทอง ครอบคลุมพื้นที่ 80,000 ไร่ ประกาศเป็นเขตอุทยานฯ เมื่อ1 กันยายน พ.ศ. 2525 คำว่า “สิมิลัน” เป็นภาษายาวี หรือ มลายู แปลว่า เก้า หรือ หมู่เกาะเก้า  หมู่เกาะสิมิลันเป็นหมู่เกาะเล็ก ๆ ในทะเลอันดามัน มีทั้งหมด ๙ เกาะ เรียงลำดับจากเหนือมาใต้ ได้แก่  เกาะหูยง เกาะปายัง เกาะปาหยัน เกาะเมี่ยง (มี ๒ เกาะติดกัน) เกาะปายู เกาะหัวกระโหลก (เกาะบอน) เกาะสิมิลัน และเกาะบางู  ที่ทำการอุทยานฯ อยู่ที่เกาะเมี่ยงเพราะเป็นเกาะที่มีน้ำจืด  ช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายน เป็นช่วงที่น่าท่องเที่ยวมากที่สุด ส่วนเดือนพฤษภาคมถึงพฤศจิกายน เป็นฤดูมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ มีคลื่นลมแรงเป็นอันตรายต่อการเดินเรือและทางอุทยานฯ จะประกาศปิดเกาะในเดือนพฤษภาคมเพื่อเป็นการฟื้นฟูธรรมชาติทุกปี



เกาะตะปู

เกาะตะปู ตั้งอยู่ในบริเวณทะเลด้านนอก ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา คิดเป็นระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร จากที่ทำการอุทยานฯตามลำคลองเกาะปันหยีจังหวัดพังงา อยู่ทางด้านเหนือในเวิ้งอ่าวของเกาะเขาพิงกัน เกาะตะปู มีลักษณะเป็นเกาะเดี่ยว รูปร่างคล้ายตะปู มีศัพท์เฉพาะทางธรณีวิทยาว่า เกาะหินโด่ง (Stack) การชมเกาะตะปูต้องชมในระยะไกลจากเรือ หรือจากสันดอนของเกาะเขาพิงกัน ไม่สามารถขึ้นไปบนเกาะได้


แหลมพรหมเทพ



เป็นจุดชมวิวที่สวยงามของภูเก็ต อยู่ห่างจากหาดราไวย์ ประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นแหลมที่อยู่ตอนใต้สุดของเกาะภูเก็ต ชาวบ้านเรียกว่าแหลมเจ้า จากริมหน้าผามีแนวต้นตาลลาดลงสู่ปลายแหลมที่เป็นโขดหิน สามารถเดินไปจนถึงปลายแหลมได้ มองเห็นน้ำทะเลสีเขียวมรกต และสามารถเห็นเกาะแก้วอยู่ด้านหน้าแหลม ทางขวาจะเห็นแนวหาดทรายของหาดในหาน แหลมพรหมเทพนับเป็นสถานที่ชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมากแห่งหนึ่ง นอกจากนั้นยังมี “ประภาคารกาญจนาภิเษก แหลมพรหมเทพ”  สร้างขึ้นในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี  มีขนาดความกว้างที่ฐาน 9 เมตร สูง 50 ฟุต และแสงไฟจากโคมไฟจะมองเห็นไกลถึง 39 กิโลเมตร   ภายในประภาคารมีการแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับการสร้างประภาคาร การรักษาเวลามาตรฐาน การคำนวณ และแสดงเวลาดวงอาทิตย์ขึ้นและตก จากบนยอดของประภาคารยังเป็นจุดชมวิว


หาดป่าตอง



หาดป่าตอง อยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตประมาณ 15 กิโลเมตร ตามเส้นทางถนนวิชิตสงคราม หรือทางหลวงหมายเลข 4020 ไป 9 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 4029 ไปอีก 6 กิโลเมตร เป็นอ่าวที่มีความโค้งมาก หาดทรายงดงามเป็นแนวยาว 9 กิโลเมตร น้ำทะเลใสสะอาด เหมาะแก่การเล่นน้ำ บริเวณหาดมีที่พัก บริษัทนำเที่ยว ศูนย์การค้า แหล่งบันเทิง บริการนักท่องเที่ยวอย่างครบครัน


สวนสนุกทางน้ำ สแปลช จังเกิ้ล 





สวนสนุกทางน้ำ สแปลช จังเกิ้ล สร้างขึ้นเพื่อเป็นแหล่งสร้างสรรค์ประสบการณ์ดี ๆ ในวันหยุดพักผ่อน และสร้างความสนุกสนานประทับใจให้กับทั้งนักท่องเที่ยวและชาวท้องถิ่นภูเก็ต ความสนุกของเครื่องเล่นภายในสวนน้ำ เริ่มต้นที่ เลซี่ ริเวอร์ ผจญภัยกับล่องน้ำที่มีความยาวถึง 335 เมตร เครื่องเล่นจำลองคลื่นอย่าง เวฟพูล หรือ อควา เพลย์พูล รวมทั้งเครื่องเล่นไฮไลท์ อย่าง บูมเมอแรงโก้ และ ซุปเปอร์โบว์ล รวมถึงเครื่องเล่นทางน้ำต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสไลด์ ถังน้ำขนาดใหญ่ ปืนฉีดน้ำ หลากหลายขนาดต่างกัน เป็นต้น


ตึกโบราณ


ในตัวเมืองภูเก็ตนั้น ส่วนมากจะเป็นตึกสมัยเก่า มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมแบบยุโรป สร้างขึ้นเกือบร้อยปีมาแล้ว เมื่อครั้งกิจการเหมืองแร่เริ่มเจริญใหม่ ๆ อาทิ อาคารปัจจุบันที่ทำการศาลากลางจังหวัด ศาลจังหวัด ธนาคารนครหลวงไทย นอกจากนี้ ยังมีอาคารบางส่วนที่ได้รับอิทธิพลทางด้านสถาปัตยกรรมแบบจีนมาผสมผสาน เรียกว่า สถาปัตยกรรมแบบ "ชิโน - โปรตุกีส" (Chinois Postugess) คืออาคารจะมีส่วนลึกมากกว่าส่วนกว้างและไม่สูงนัก สามารถหาชมได้บริเวณถนนถลาง ถนนดีบุก ถนนพังงา ถนนเยาวราช และถนนกระ